A week with Fēnix 5


ตั้งแต่ที่ผมเริ่มใช้อุปกรณ์ช่วยบันทึกกิจกรรมการออกกำลังกายโดยเฉพาะการวิ่งซึ่งตอนนี้กลายเป็นกีฬาหลัก อุปกรณ์ที่ช่วยบันทึกกิจกรรมที่ใช้เริ่มต้นตั้งแต่ใช้โทรศัพท์มือถือ ตามมาด้วยการหาอุปกรณ์สวมใส่ได้เพิ่มเติมเช่นสายคาดอกวัดชีพจรมาใช้คู่กับโทรศัพท์ และเปลี่ยนมาเป็นอุปกรณ์เฉพาะอย่างเช่นนาฬิกาที่สามารถจับสัญญาณ GPS อย่าง Garmin Forerunner ที่มีความสะดวกในการใช้งาน 



เมื่อ Garmin ประเทศไทยเปิดตัว Fenix 5 ซึ่งเป็นนาฬิกาประเภท multi-sport รุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมกับความสามารถเพิ่มเติม รวมถึงมีหลายขนาดให้เลือกได้ที่ต่างจากรุ่น fenix 3/3HR ก่อนหน้าที่มีขนาดเดียวและมีน้ำหนักมาก ทำให้ Fenix รุ่นใหม่เป็นทางเลือกได้มากขึ้น โดยมีสามขนาด ห้ารุ่นย่อย

  • Fenix 5S
  • Fenix 5S Sapphire
  • Fenix 5
  • Fenix 5 Sapphire
  • Fenix 5X Sapphire

สำหรับรุ่นที่อยู่ในมือผมคือ Fenix 5 เลนส์หน้าเป็นกระจกธรรมดา ไม่ใช่กระจก sapphire ขนาดตัวเรือนใหญ่กว่า Forerunner 235 ที่เคยใช้ประมาณ 2 มิลลิเมตร กับน้ำหนักตัวที่มากกว่าอีกหนึ่งเท่าตัวโดยประมาณ เรามารีวิวกันเลยดีกว่า

หลังจากใช้งานอยู่กับนาฬิกาใหม่มาได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์นิดๆ fenix 5 ใหม่นี่ ถ้าเทียบกับ forerunner 235 จะเห็นความแตกต่างในด้านรูปร่างและน้ำหนักอย่างชัดเจน ทั้งขนาดที่ใหญ่ขึ้นและน้ำหนักที่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ใส่ปุ๊บรู้สึกหนักข้อมือในทันทีตั้งแต่วินาทีแรก แต่พอผ่านไปซักวันสองวันก็เริ่มชิน


แบตเตอรี่ 

อายุการใช้งาน fenix 5 นับตั้งแต่การชาร์ทแบตเตอรี่ให้เต็มครั้งแรกครั้งเดียวและใช้งานจนถึงวันที่เขียนรีวิวนี้ระดับของแบตเตอรี่เหลือประมาณ 24% รวมระยะเวลาทั้งหมดก็เก้าวันพอดี โดยมีรายละเอียดคร่าวๆ ของการใช้งานก็มีดังนี้

เริ่มต้นชาร์ทครั้งแรก และผ่านไปเจ็ดวัน วิ่ง 6 ครั้ง แบตเตอร์รี่เหลือ 55% 
  • กดๆ ดูเมนูต่างๆ ว่าใช้งานยังไงมีอะไรให้เล่นได้บ้าง เกือบทุกวัน
  • ใช้บันทึกการวิ่งรวม 9 ครั้ง 7 วัน (จริงๆ 11 ครั้งแต่ไม่ได้ save 2 ครั้ง) และการวิ่ง 4 ครั้งหลัง (รวมที่ไม่ได้ save) จะเปิด tracking สัญญาณดาวเทียมแบบ GPS+GLONASS การบันทึกข้อมูลการวิ่งเป็นแบบบันทึกทุกๆ หนึ่งวินาที - รวมระยะทางที่วิ่งประมาณ 49 กิโลเมตร ระยะเวลาวิ่งรวมทั้งหมดประมาณ 4 ชั่วโมงนิดๆ 
  • ถ่ายโอนข้อมูล sync กับโทรศัพท์มือถือผ่าน Garmin Connect Mobile ทุกวัน บางวัน sync หลายรอบ
  • ใช้ track activity อื่นๆ ทุกวันเช่นการเดิน (นับก้าว) การเดินขึ้นลงบันได

ผ่านไปเก้าวันแบตเตอรี่เหลือ 24%

สำหรับการชาร์ทใช้งานครั้งแรก ถือว่าแบตเตอรี่อึดพอควร ชาร์ทครั้งถัดๆ ไปน่าจะดีกว่านี้อีก เมื่อเทียบกับ FR235 แล้วยิ่งถือว่าอึดกว่ามาก เพราะ FR235 ใช้วิ่งสี่วันวันละครั้งและครั้งละประมาณหนึ่งชั่วโมง+ใส่ติดตัวทั่วๆ ต้องนำไปชาร์ทใหม่ภายในห้าวันมากสุดหกวัน 




Activity Tracking

ความสามารถของนาฬิกา Garmin รุ่นใหม่ๆ จะเป็นการตรวจจับและบันทึกกิจกรรมของเราในชีวิตประจำวันโดยอัตโนมัติ เช่นการเดิน เดินขึ้นลงบันได นอน ผ่านแอพลิเคชันที่ให้มากับนาฬิกาที่ชื่อว่า MoveIQ นอกจากนี้ fenix 5 ยังมาพร้อมกับตัวตรวจจับชีพจรที่ข้อมือแบบใหม่และนำไปใช้วิเคราะห์ร่วมกับกิจกรรมต่างๆ



Sport Tracking

เนื่องจากเป็นนาฬิกา multi-sport ความสามารถของ fenix 5 รองรับการเก็บบันทึกกิจกรรมกีฬาต่างๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่งบนถนน วิ่ง trail วิ่งสายพาน เดินป่า ปีนเขา ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำทั้งในร่มและว่ายน้ำ open water เล่นสกี พายเรือ ตีกอล์ฟ หรือออกกำลังกายประเภทอื่นเช่น Cardio, Strength
นอกจากนี้ยังมีโหมดนำทาง navigator และการทำ stress test (HRV ต้องใช้คู่กับสายวัดชีพจรแบบคาดอก)


Running with Fenix 5

อย่างที่บอกข้างต้น กีฬาหลังของผมตอนนี้คือการวิ่ง รีวิวนี้เลยเน้นไปที่การวิ่งครับ Fenix 5 มีโหมดการวิ่งหลักๆ อยู่สามแบบคือ วิ่ง วิ่งเทรล และวิ่งสายพาน โดยสองแบบแรกจะเป็นการวิ่งกลางแจ้ง ใช้สัญญาณ GPS เพื่อตรวจจับการเคลื่อนที่

ข้อมูล metrics ต่างๆ ของการวิ่งจะมีคล้ายๆ กับนาฬิกา Garmin ตระกูล Forerunner อื่นๆ รวมกับข้อมูลการวิ่งขั้นสูงอย่างเช่น running dynamics ที่จะมีการเก็บข้อมูลเพิ่มเติมผ่านตัวตรวจจับจากสายคาดอก HRM-Run, HRM-Tri หรือ Running Dynamics Pod  ข้อมูล running dynamics ที่จะปรากฏใน metrics การวิ่งของเรา เช่น ground contact time และ balance, จังหวะการเคลื่อนที่ในแนวดิ่งหรือ vertical oscillation, ระยะก้าวขาและความถี่ในการก้าวขา

สำหรับการวิ่งเทรล fenix 5 จะมีเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้นมา เช่นการวิ่งไต่ขึ้นลงทางชันที่จะนำมาสร้างเป็นกราฟแบบสามมิติให้ดูได้

หลังการวิ่งมีคำแนะนำหลังการออกกำลังกาย (recovery advisory) หรือวิเคราะห์ค่า VO₂-Max





Training Load

ความสามารถอีกอย่างที่เพิ่มมาใน fenix 5 คือการวิเคราะห์ผลลัพธ์ของการออกกำลังกายเทียบว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหนโดย Garmin ร่วมมือกับ FirstBeat พัฒนาวิธีการวิเคราะห์ผลกระทบจากการออกกำลังกาย โดยอาศัย metrics ต่างๆ ในขณะออกกำลังกายมาใช้วิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลก่อนและหลังกิจกรรมนั้นๆ



หลังจากการใช้งานหนึ่งอาทิตย์ Fenix 5 มีขนาดใหญ่ขึ้นและหนักขึ้นกว่า forerunner ที่เคยใช้อยู่พอสมควร แต่ใส่ไปสักพักก็ชิน ไม่ถือว่าหนักมากนัก หน้าจอแสดงผลมีความละเอียดมากและแสดงผลได้สวยมากกว่า โดยเฉพาะเทียบกับ forerunner 235 แบตเตอรี่มีความจุและใช้งานได้นานมาก ความสามารถอื่นๆ และลูกเล่นมีเยอะมาก แม้จะยังใช้ได้ไม่หมดทุกอย่างแต่ก็ประทับใจกับฟังก์ชันอื่นๆ ที่เคยใช้ใน forerunner ความรวดเร็วในการตอบสนองการใช้งานมีความรวดเร็วดี

มาดูด้านข้อเสียบ้าง นอกจากน้ำหนักแล้วราคาค่าตัวของ fenix 5 ก็ถือว่าแพงพอสมควร แล้วข้อเสียด้านอื่นๆ หล่ะ ก็มีพวกฟังก์ชันที่มาพร้อมกับมันอย่างเช่นการตรวจจับการเดินขึ้นลงบันไดซึ่งบางครั้งไม่สามารถตรวจจับได้อย่างแม่นยำ อย่างเช่นหากวิ่งขึ้นบันไดจากชั้น platform ล่างสุดของสถานีรถไฟใต้ดินขึ้นมาที่ชั้นออกตั๋วโดยสาร หากวิ่งขึ้นมาเร็วเกินไป fenix 5 ก็ไม่สามารถตรวจจับได้ว่าเราวิ่งหรือเดินขึ้นบันไดมาหลายชั้น หรืออย่างเช่นการตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิก็ต้องอาศัยเวลาพอสมควรถึงจะรับรู้การเปลี่ยนแปลง

สรุปโดยรวม fenix 5 นับเป็น wareable gadget ที่ดีหากรับได้กับราคา ส่วนขนาดของตัวเรือนมีให้เลือกถึงสามขนาดตามความเหมาะสมกับข้อมือ หน้าตาเหมาะสมกับการสวมใส่ติดข้อมือทั้งการเล่นกีฬาและติดตัวในชีวิตประจำวัน การตอบสนองการใช้งานที่รวดเร็ว ใช้งานง่าย หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์แก่คุณบ้างนะครับ








Comments